นิยามของ BPM
ระบบ Real- Time ที่เตือนผู้จัดการถึงแนวโน้มของโอกาส ปัญหาและอุปสรรคที่กำลังจะเกิดขึ้น และทำการแก้ปัญหาผ่านทางตัวแบบและการวางร่วมมือต่าง ๆ
การจัดการกระบวนการทางธุรกิจ (Business Performance Management) หมายถึง การจัดการกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในองค์กร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และพนักงานในองค์กร โดยช่วยให้กระบวนการทางธุรกิจเกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล รวมทั้งเพื่อให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ
การเปรียบเทียบระหว่าง BPM และ BI
BPM คือ การเติบโตของ BI และผนวกรวมเข้ากับเทคโนโลยี โปรแกรมประยุกต์ และ เทคนิคต่าง ๆ
BPM จะล้อมรอบไว้ด้วย Closed-loop set of processes ที่เชื่่อมกลยุทธ์เข้ากับการดำเนินการเพื่อ Optimize Business
การบริหารจัดการผลสัมฤทธิ์ทั้งทั้งองค์กร (Corporate Performance Management) กระบวนการที่รวมเอาแนวคิดการบริหารจัดการองค์ต่าง เข้าไว้ด้วยกัน เช่น Balance Scorecard, Bench marking, Key Performance Indicator การวางแผนทางการเงิน เข้าไว้ด้วยเพื่อมุ่งเน้นให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการทั่วทั้งองค์กร
องค์ประกอบของ CPM ได้แก่
การวางแผน(Plan)
การกำหนดสภาพหรือสถานภาพที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นกับองค์กรในอนาคต โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว เช่น
- การสร้างแบบจำลอง (Modeling)
- การวางแผน (Planing)
- งบประมาน (Budgeting)
- การพยากรณ์ (Forecasting)
การควบคุมกำกับดูแล(Monitor)
การรายงานผลการปฏิบัติงาน(Report)
วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ท่านเคยมีอาการเช่นนี้หรือไม่
...ตื่นเช้ามาอย่างหมดแรง หมดอาลัยตายอยาก ไม่คิดอยากเดินทางไปทำงาน
...บ่นให้คนรอบข้างฟังเสมอว่า เบื่อ เซ็ง กับงานที่ทำอยู่
...ทนทำงานให้หมดไปวัน ๆ และเฝ้ารอให้ถึงวันศุกร์เร็ว ๆ เพื่อวันเสาร์อาทิตย์จะได้เที่ยวพักผ่อน
...ทำงานอย่างเช้าชามเย็นชามไปวัน ๆ ไปทำงานสายเป็นประจำ แต่ตกเย็นมักจะรีบกลับบ้านก่อนเพื่อน
หากส่อเค้ามีอาการดังกล่าว พึงระวัง! ท่านอาจกำลังป่วยเป็น “โรคเบื่องาน” เข้าให้แล้ว
โรคเบื่องานเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ความเบื่อหน่ายจากลักษณะงานอาทิ
...บทบาทงานที่ตนรับปิดชอบนั้นไม่ตรงกับความชอบ ความถนัด
...การได้ทำงานเดิม ๆ ซ้ำซากจำเจ ไม่ท้าทายความสามารถ
...ความเบื่อหน่ายที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน อาทิ เบื่อระบบงานที่เชื่องช้าซ้ำซ้อนไร้ประสิทธิภาพ มีปัญหากับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานจนทำให้พาลเบื่องานไป
ผู้ที่มีอาการของโรคเบื่องานมักจะหาทางออกให้ตนเองหลุดพ้นจากความเบื่อหน่ายที่มีอยู่ โดยในขั้นแรกอาจด้วยการพยายามอดทนทำงานนั้น ๆ ต่อไป เนื่องจากยังไม่มีทางออกอื่นที่ดีกว่า ต่อมา เมื่อความเบื่อดำเนินมาถึงขีดสุดจึงอาจผันตัวจากงานที่ตนทำอยู่ด้วยการเปลี่ยนงาน หรือลาออกจากงานเดิมไปหางานอื่นทำ เพื่อหลีกหนีจากความซ้ำซากจำเจเดิม ๆ ไปสู่สภาพแวดล้อมใหม่ งานใหม่ที่คิดว่า น่าจะดีกว่า ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง ไม่ว่าเราจะทำงานที่ใดองค์กรใดก็ตาม ย่อมประสบปัญหาที่ไม่แตกต่างกันมากนัก การเปลี่ยนงานอาจไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาในเรื่องความเบื่อหน่ายที่ถูกต้องตรงจุดก็ เป็นได้
ผมพบว่ามีงานเขียนและบทความจำนวนมากที่ได้กล่าวถึง วิธีการ (How to) ต่าง ๆ เพื่อ รักษาอาการของโรคเบื่องานที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยมากมักจะเน้นไปแก้ไขในด้านของ “อารมณ์ความรู้สึก” เป็น หลัก เช่น แก้เบื่อด้วยการหาเวลาพูดคุย เที่ยวเตร่ สังสรรค์กับเพื่อน ๆ ในที่ทำงานและหลังเลิกงาน หรือไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดในวันหยุดสุดสัปดาห์..การตกแต่งโต๊ะทำงานใหม่ให้แปลกตา...หารูปแบบการแต่งกายใหม่ ๆ ที่สวยงามไม่ซ้ำซากจำเจ.. ฯลฯ โดยเชื่อว่าการสร้างสีสันในชีวิตเช่นนี้จะสามารถลบล้างอาการ เบื่องานได้
ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วการแก้ไขด้วยวิธีการดังกล่าวเป็นเพียงการเยียวยาเฉพาะเปลือกนอกที่สร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ให้กับชีวิตโดยการพยายามปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบตัวให้ พ้นจากความจำเจเดิม ซึ่งอาจช่วยให้อาการเบื่องานทุเลาลงไปได้บ้างแต่ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะอีกไม่นานสภาวะใหม่ที่สร้างขึ้นในปัจจุบันย่อมจะกลายเป็นสภาพแห่งความเบื่อหน่ายซ้ำซากจำเจในอนาคต
ดังนั้นในสภาพความเบื่อหน่ายอย่างถึงที่สุดนี้ หากลองฮึดสู้สักตั้งก่อนที่จะหนีไปจากมันโดยการปรับทัศนคติ มุมมอง ความคิดของเราให้ตอบสนองได้อย่างถูกต้องกับสภาพปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ เราจะเห็นถึงมิติใหม่ในการทำงานและการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้แน่นอน
ผมเชื่อว่า
................"การคิด" (thinking) เป็นตัวกำหนดสิ่งที่เรารู้
................ความรู้ที่เราได้จากการคิดนั้นจะเป็นตัวกำหนดความเป็นตัวเรา
.................และความเป็นตัวเราจะเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตของเรา
.................ซึ่งจะทำให้เราแสดงออก (manifesting) ทั้งคำพูดและการกระทำ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)